บิตคอยน์ (Bitcoin)
BTC คือสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) สกุลแรกของโลกที่ถูกสร้างขึ้นบน “บล็อกเชน” (Blockchain) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับตรวจสอบธุรกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์ หัวใจของบิตคอยน์คือ “การกระจายศูนย์” (Decentralized) ที่ปราศจากการควบคุมจากตัวกลางหรือการกำกับดูแลของรัฐบาลและธนาคารใดๆ ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์แต่ละรายการถูกบันทึกไว้ในบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ ทำให้ธุรกรรมใด ๆ ยากที่จะย้อนกลับ ดัดแปลง หรือทำลายทิ้งปัจจุบันบิตคอยน์มีมูลค่าและส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดในตลาดคริปโตฯ ด้วยปริมาณการซื้อขายอย่างมหาศาลในแต่ละวันจำนวนบิตคอยน์มีอยู่จำกัดที่ประมาณ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งล่าสุด ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2022 บิตคอยน์ถูกขุดไปแล้วกว่า 18.97 ล้านเหรียญ หรือราว 90% ของจำนวนบิตคอยน์ทั้งหมด โดยคาดว่าบิตคอยน์จะถูกขุดหมดประมาณปี 2140
บิตคอยน์ถือกำเนิดขึ้นในเดือนมกราคม ปี 2009 โดยผู้สร้างที่ใช้นามแฝงว่า “ซาโตชิ นากาโมโตะ” (Satoshi Nakamoto) ตัวตนที่แท้จริงของซาโตชิยังคงเป็นปริศนา แม้ว่าจะมีคนบางกลุ่มพยายามค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเขาแล้วก็ตาม บางคนก็ตั้งข้อสงสัยต่าง ๆ นานาว่าเหตุผลที่ซาโตชิไม่ยอมเปิดเผยตัวตนของเขาอาจเป็นเพราะเขาต้องการรักษาหัวใจสำคัญของบิตคอยน์เอาไว้นั่นคือ “การกระจายศูนย์” ที่ทำให้บิตคอยน์ไม่ขึ้นอยู่กับตัวกลางใด ๆ เพราะหากเขาเปิดเผยตัวตนของเขาก็อาจจะทำให้สูญเสียหัวใจสำคัญสิ่งนี้ไปได้
มูลค่าของบิตคอยน์
บิตคอยน์ยังมีคุณสมบัติที่เหมือนสกุลเงินทั่วไปคือ สามารถแบ่งออกเป็นหน่วยย่อยได้ เพราะ 1 เหรียญบิตคอยน์สามารถแบ่งย่อยเป็นทศนิยมได้สูงสุดถึง 8 ตำแหน่งเลยทีเดียว (ในขณะที่สกุลเงินทั่วไปสามารถแบ่งได้สูงสุดเพียง 2 ตำแหน่ง) หรือที่เรียกว่า ‘Satoshi’ ซึ่งเป็นหน่วยย่อยที่สุดของบิตคอยน์ที่เท่ากับ 0.0000001 BTC นั่นเอง
ความเสี่ยงของ Bitcoin
ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ
หากใครอยู่ในแวดวงคริปโตฯ หรือตามข่าวคริปโตฯ คงรู้กันดีว่ายังมีรัฐบาลหลาย ๆ ประเทศไม่ยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีสำหรับใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเหมือนเงินสด อย่างประเทศจีนที่ต่อต้านถึงขนาดกวาดล้างเหมืองขุดบิตคอยน์ทั่วประเทศ และประกาศว่าคริปโตฯ เป็นสิ่งผิดกฎหมายเลยทีเดียว
ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
การซื้อขายแลกเปลี่ยนบิตคอยน์เป็นแบบดิจิทัลทั้งหมด จึงมีความเสี่ยงจากแฮกเกอร์ มัลแวร์ ซึ่งหากแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงรหัสส่วนตัวของกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีบิตคอยน์ได้แล้ว พวกเขาสามารถโอนบิตคอยน์ที่อยู่ในบัญชีนั้นไปยังบัญชีอื่นได้ อย่างไรก็ตาม เราสามารถใช้ ‘Hardware Wallet’ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับกระเป๋าเงินดิจิทัลของเราได้
ความเสี่ยงด้านตลาด
เช่นเดียวกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนค่อนข้างสูง ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วภายในหนึ่งวัน หรือแม้กระทั่งภายในหนึ่งนาที แม้บางคนจะกล่าวว่าบิตคอยน์คึอ “ทองคำดิจิทัล” แต่ที่ผ่านมา บิตคอยน์ก็ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองในการทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยยามเกิดวิกฤตเช่นเดียวกับทองคำแท่ง
1. การขุด Bitcoin
ใครอยากลงทุนบิตคอยน์ด้วยวิธีการขุด สิ่งแรกที่ต้องเตรียมเลยคือเครื่องขุดบิตคอยน์ (Asic) ที่สามารถประมวลผลได้รวดเร็ว เนื่องจากมีคู่แข่งจำนวนไม่น้อยที่มาลงสนามขุดบิตคอยน์ไปพร้อมคุณ ส่วนราคาก็ตามสเปคของเครื่องเลย ยิ่งสเปคสูงราคาก็จะสูงตามไปด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ “ค่าไฟ” เพราะอย่างที่กล่าวไปว่าการขุดบิตคอยน์จำเป็นต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาล จึงมีต้นทุนในส่วนของค่าไฟฟ้าจากการขุดด้วย ดังนั้นแนะนำว่าควรคำนวณให้ดีว่าหากเราลงทุนซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์มาและหักต้นทุนในส่วนของค่าไฟแล้วจะคุ้มหรือไม่ กี่ปีถึงจะคืนทุน
2. ซื้อขาย Bitcoin ผ่านแพลตฟอร์ม
ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเปิดให้นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ซึ่งจะต่างกับตลาดหุ้นที่มีวันหยุดและมีเวลาเปิดปิดตลาด โดยปัจจุบันการซื้อขายบิตคอยน์ทำได้ค่อนข้างสะดวก เนื่องจากมีผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากกระแสความป๊อปของสกุลเงินดิจิทัล
- Bitkub (บิทคับ) – แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย มีสกุลเงินดิจิทัลให้เลือกเทรดมากกว่า 50 สกุล ค่าธรรมเนียมการเทรดอยู่ที่ 0.25% ต่อครั้ง และค่าธรรมเนียมการถอนเงินเริ่มต้นที่ 20 บาท/ครั้ง
- Zipmex (ซิปเม็กซ์) – แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ ที่เปิดให้บริการในประเทศไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ความดีงามของซิปเม็กซ์คือค่าธรรมเนียมในการเทรดแต่ละครั้งเริ่มต้นเพียง 0.10% ส่วนค่าธรรมเนียมการถอนเงินอยู่ที่ครั้งละ 20 บาท การเปิดบัญชีเทรดก็ทำได้ง่ายผ่านทางออนไลน์ได้เลย
- Satang Pro (สตางค์ โปร) – ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ สัญชาติไทย ที่มีจุดเด่นคือสามารถฝากถอนเงินบาทได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง ค่าธรรมเนียมก็สุดปัง เพราะเขาคิดค่าธรรมเนียมถอนเงินเพียง 18 บาท/ครั้งเท่านั้น ส่วนค่าธรรมเนียมซื้อขายก็เริ่มต้นเพียง 0.12%
- Bitazza (บิทาซซ่า) – แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ ที่มุ่งเน้นการให้บริการในภูมิภาคอาเซียน มีความปลอดภัยและสภาพคล่องสูง ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานก.ล.ต. มีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายอยู่ที่ 0.25% ต่อครั้ง
- Binance (ไบแนนซ์) – เป็นแพลตฟอร์มที่ถือว่าครอบคลุมในการซื้อขายคริปโตฯ มากที่สุดในโลก เพราะมีเหรียญให้เราเลือกเทรดมากกว่า 300 เหรียญ แถมมีฟีเจอร์เด็ด ๆ ตอบโจทย์ทั้งนักลงทุนและนักเก็งกำไร ด้วยค่าธรรมเนียมซื้อขายเริ่มต้นเพียง 0.10% นอกจากนี้ยังสามารถซื้อคริปโตฯ โดยชำระผ่านบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตได้ด้วย
ทั้งนี้ ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีค่อนข้างผันผวน ราคาเคลื่อนไหวเร็ว ขึ้นแรงลงแรง แถมเปิดซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นไม่ว่าจะลงทุนบิตคอยน์ด้วยวิธีใดก็อย่าลืมประเมินความเสี่ยงของตัวเองและศึกษาทำความเข้าใจในสินทรัพย์ให้ดีก่อนลงทุนเสมอด้วยนะ
ลิ้งค์ที่หาข้อมูลค่ะ https://www.finnomena.com/planet46/what-is-bitcoin/?fbclid=IwAR3_4JRaDInvjapNl98VTNwoNDuFBIZ4nSx0lXO_-ZC8x3CBrE-PaTNU_98
สมาชิกในกลุ่ม
นางสาวกุลจิรา กาญจนศร หมู่ 2 รหัส 640113106057
นางสาวพีรดา ลอยสนั่น หมู่ 2 รหัส 640113106065
นางสาวสลิลทิพย์ พันโนราช หมู่ 2 รหัส 6401131069