การถ่ายภาพด้วยระบบดิจิทัล
บทที่ 1
รู้จักกล้องดิจิทัล
การถ่ายภาพได้รับความนิยมเป็นอันมาก ภาพหนึ่งภาพสามารถสื่อความหมายแทนคำพูดได้เป็นพันคำ และยังช่วยบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ไว้เป็นหลักฐานให้คนรุ่นหลังใช้ศึกษาหาความรู้ได้เป็นอย่างดี ใครๆ ก็สามารถถ่ายภาพได้ ด้วยสายตาที่เพ่งพินิจ ด้วยจินตนาการบางอย่างในหัวใจ ด้วยมืออันเขม็งแน่ว รวมทั้งมีความรู้ด้านเทคนิคบ้างเล็กน้อย การถ่ายภาพมีวิวัฒนาการรวดเร็วยิ่ง กระแสความนิยมกล้องดิจิทัล (Digital Camera) ได้เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติที่น่าสนใจหลาย ๆ ประการดังจะได้แนะนำให้รู้จักกล้องดิจิทัลเป็นลำดับขั้นไป
ความหมายของกล้องดิจิทัล
กล้องดิจิทัล คือกล้องถ่ายภาพที่ไม่ต้องใช้ฟิล์ม แต่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่าเซ็นเซอร์ เป็นตัวรับแสงผ่านการประมวลผลได้ภาพดิจิทัล บันทึกไว้ในรูปของไฟล์ในสื่อบันทึกภาพภายในกล้องซึ่งสามารถส่งต่อไปยังคอมพิวเตอร์ เพื่อตกแต่งภาพด้วยโปรแกรมต่าง ๆ แล้วพิมพ์ออกมาเป็นภาพหรือส่งผ่านอินเทอร์เน็ต และใช้งานในลักษณะอื่น ๆ ได้อย่างหลากหลาย บนพื้นผิวของเซ็นเซอร์รับภาพจะแบ่งออกเป็นส่วนเล็ก ๆ ที่เรียกกันว่า พิกเซล (Pixel) ซึ่งแต่ละพิกเซลจะบันทึกข้อมูล 1 จุดภาพ เมื่อรวมกันหลาย ๆ จุดอัดกันแน่นจะกลายเป็นภาพที่สามารถมองเห็นได้ว่าเป็นภาพอะไร
วิเคราะห์จุดเด่นของกล้องดิจิทัลกับกล้องที่ใช้ฟิล์ม
ระบบถ่ายภาพของกล้องดิจิทัลและกล้องที่ใช้ฟิล์มจะคล้ายคลึงกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่าง เห็นได้ชัดคือระบบบันทึกภาพ ที่กล้องดิจิทัลใช้ตัวเซ็นเซอร์เป็นตัวรับภาพแทนฟิล์มแล้วแปลงเป็น สัญญาณดิจิทัลบันทึกลงอุปกรณ์เก็บข้อมูล บางคนอาจเลือกใช้กล้องดิจิทัล แต่บางคนอาจยังชอบใช้ กล้องชนิดใช้ฟิล์ม เพราะกล้องทั้งสองแบบมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป พอสรุปได้ดังนี้
จุดเด่นของกล้องดิจิทัล
- ไม่ต้องใช้ฟิล์ม ใช้ตัวเซ็นเซอร์เป็นตัวรับภาพแล้วเแปลงเป็นสัญาณดิจิทัลบันทึกลงอุปกรณ์ เก็บข้อมูลเป็นไฟล์ภาพ สามารถถ่ายภาพได้มากโดยไม่ต้องเสียค่าฟิล์มให้เปลืองเงิน
- ดูภาพได้ทันที รวดเร็ว ไม่ต้องรอลุ้นเหมือนกล้องใช้ฟิล์มว่าถ่ายไปแล้วภาพจะออกมาดี หรือไม่ เพราะต้องนำฟิล์มไปผ่านกระบวนการล้างแล้วอัดออกมาเป็นภาพ บางครั้งถ่ายเสีย ไปแล้วก็ไม่สามารถกลับไปถ่ายใหม่ได้อีก แต่ถ้าใช้กล้องดิจิทัลเมื่อถ่ายเสร็จปุ๊บก็สามารถ เปิดดูภาพได้ทันทีที่จอภาพของกล้อง ถ้าภาพออกมาไม่ดีหรือไม่ถูกใจก็ลบทิ้งแล้วถ่ายใหม่ เดี๋ยวนั้นได้เลย
- สามารถปรับเปลี่ยนค่าความไวแสงได้ตลอดเวลาที่ถ่ายภาพ แต่ถ้าเป็นกล้องใช้ฟิล์มเมื่อ กล้องตัวนั้นใส่ฟิล์มที่มีค่าความไวแสงเท่าใด ก็ต้องถ่ายภาพด้วยค่าความไวแสงเท่านั้นไป จนกว่าฟิล์มจะหมดม้วน เช่น ใส่ฟิล์มที่มีค่าความไวแสง 100 ก็ต้องถ่ายภาพด้วยค่า ความไวแสง 100 ไปจนกว่าฟิล์มจะหมดม้วน ถ้าจำเป็นต้องไปถ่ายภาพในที่มืดมาก ๆ ก็จะ เปลี่ยนค่าความไวแสงให้มากขึ้นไม่ได้ ซึ่งกล้องดิจิทัลสามารถเปลี่ยนค่าความไวแสงได้ ทันที ทำให้สามารถถ่ายภาพได้แทบทุกสภาพแสง
- สามารถปรับปรุงแก้ไขภาพเบื้องต้นได้ภายในกล้อง ด้วยโปรแกรมที่ให้มากับตัวกล้อง เช่น การตัดบางส่วนของภาพที่ไม่ต้องการออกไป การแก้ไขภาพที่มืดไปให้สว่างขึ้น ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งกล้องถ่ายภาพที่ใช้ฟิล์มทำไม่ได้ภายในตัวกล้อง
- ใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้ง่าย สามารถต่อกล้องดิจิทัลเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง แล้วโหลดภาพจากกล้องดิจิทัลมาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ยังสามารถตกแต่งภาพ ที่ถ่ายมาได้ตามใจที่เราต้องการ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปช่วยในการตกแต่งภาพซึ่งมีอยู่ มากมายหลายโปรแกรม แต่ถ้าเป็นกล้องที่ใช้ฟิล์มกว่าจะใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้ ต้องนำภาพหรือฟิล์มไปผ่านเครื่องสแกนภาพ เพื่อแปลงให้เป็นไฟล์ดิจิทัลก่อนจึงจะนำเข้า คอมพิวเตอร์ได้ 3
- ไฟล์ภาพดิจิทัลที่สำเนาเก็บไว้ในสื่อบันทึกข้อมูลแบบต่าง ๆ สามารถเก็บไว้ได้นานโดยที่ คุณภาพไม่ผิดเพื้ยนเลย แต่สำหรับกล้องที่ใช้ฟิล์มถึงแม้ว่าฟิล์มจะมีอายุการใช้งานที่ ยาวนาน แต่ถ้าไม่ได้รับการเก็บรักษาดูแลเป็นอย่างดี ก็จะทำให้ฟิล์มเสื่อมคุณภาพได้อย่าง รวดเร็วและภาพถ่ายดี ๆ ที่เราสะสมไว้ก็จะมีสีสันผิดเพี้ยนไป แล้วภาพเหล่านั้นก็จะจาก เราไปแบบไม่มีวันกลับคืนมา
- ผู้ใช้กล้องดิจิทัลสามารถพิมพ์ภาพที่ถ่ายได้ด้วยตนเอง โดยต่อเชื่อมกล้องดิจิทัลเข้ากับ เครื่องพิมพ์ภาพ ซึ่งสามารถซื้อหามาใช้ได้ง่ายหรือจะส่งไปพิมพ์ภาพ (อัดภาพ) ตามร้าน ถ่ายภาพทั่วไป โดยสามารถเลือกภาพที่ต้องการอัดได้ไม่จำเป็นต้องอัดทุกภาพ ทำให้ ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่ากล้องที่ใช้ฟิล์มที่ต้องเสียทั้งค่าล้างฟิล์มและค่าอัดภาพ และต้อง อัดทุกภาพทั้งม้วนทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูง
- กล้องดิจิทัลหลายรุ่นสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ ซึ่งกล้องที่ใช้ฟิล์มทำไม่ได้
จุดเด่นของกล้องที่ใช้ฟิล์ม
- ความละเอียดของภาพที่ได้จากกล้องที่ใช้ฟิล์มนั้น จะมีความละเอียดมากกว่ากล้องดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟิล์มที่มีความไวแสงต่ำ ๆ ยิ่งมีความละเอียดมาก ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน กล้องดิจิทัลจะพัฒนาตัวเซ็นเซอร์รับภาพที่มีความละเอียดสูงสิบกว่าล้านพิกเซลขึ้นไป แต่ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านถ่ายภาพส่วนใหญ่ ยังคงแสดงความเห็นว่าความละเอียดของภาพที่ได้ จากฟิล์มนั้นสูงกว่าภาพที่ได้จากกล้องดิจิทัล ยิ่งเป็นภาพที่ขยายใหญ่ ๆ ด้วยแล้ว กล้องที่ใช้ ฟิล์มจะขยายภาพที่ให้ความละเอียดดีกว่า
- สีของภาพที่ได้จากกล้องที่ใช้ฟิล์ม สามารถไล่น้ำหนักสีได้ดีกว่ากล้องดิจิทัล ทำให้ภาพที่ ออกมาดูสมจริง มีมิติ มากกว่ากล้องดิจิทัล
- กล้องที่ใช้ฟิล์ม จะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่น้อย ยิ่งเป็นกล้องที่ใช้ฟิล์มที่ควบคุมระบบ ต่าง ๆ เองไม่ใช่ระบบอัตโนมัติด้วยแล้วจะใช้พลังงานน้อยมาก แต่สำหรับกล้องดิจิทัล การควบคุมระบบการทำงานต่าง ๆ ในตัวกล้องต้องใช้พลังงานทั้งสิ้น กล้องตัวใดมีจอ แสดงภาพที่ใหญ่ก็ต้องใช้พลังงานมากยิ่งขึ้น
จากที่กล่าวมา จะพบว่ากล้องดิจิทัลมีจุดเด่นหลายประการที่ดีกว่ากล้องที่ใช้ฟิล์ม ด้วยเหตุผล ดังกล่าวทำให้ปัจจุบันมีผู้นิยมใช้กล้องดิจิทัลกันอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ผู้ผลิตกล้องหลายบริษัทได้ พยายามแก้ไขข้อบกพร่องของกล้องดิจิทัลในด้าน ความละเอียด สีสัน และความมีมิติของภาพให้ ใกล้เคียงกับกล้องที่ใช้ฟิล์มแล้ว
ประเภทของกล้องดิจิทัล
กล้องดิจิทัลแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามหลักสากล โดยอาศัยการใช้งานและคุณสมบัติ ของกล้อง ดังนี้ (อรวินท์ เมฆพิรุณ, 2551 : 21)
- กล้องคอมแพ็ค (Compact Digital Camera)
- กล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว หรือ D-SLR (Digital Single Lens Reflex Camera)
กล้องคอมแพ็ค
เป็นกล้องที่ได้รับความนิยมอย่างสูง มีเลนส์ติดมากับตัวกล้องแบบถาวรไม่สามารถถอดเปลี่ยน เลนส์ได้ รูปทรงของกล้องประเภทนี้มีความหลากหลาย มีทั้งขนาดเล็กกระทัดรัด แบนและบาง ใส่กระเป๋าเสื้อได้ และที่เหมือนกับกล้องถ่ายรูปแบบคอมแพ็คที่ใช้ฟิล์มก็คือ น้ำหนักของกล้องจะเบา เหมาะแก่การพกพา กล้องถูกออกแบบมาให้เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไป ทำให้กล้องประเภทนี้ใช้งาน ได้ง่าย สามารถเลือกรูปแบบการถ่ายภาพแบบอัติโนมัติได้หลากหลายรูปแบบ เช่น คำสั่งถ่ายภาพบุคคล ภาพทิวทัศน์ ภาพระยะใกล้ ภาพกีฬา ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งคำสั่งเหล่านี้จะช่วยให้ถ่ายภาพได้ดีขึ้นโดยไม่ต้อง มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพมากนัก
นอกจากนี้ ยังมีกล้องคอมแพ็คอีกประเภทหนึ่งที่มี รูปร่าง และความสามารถในการใช้งานคล้ายกล้อง D-SLR เพียงแต่ถอดเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้เท่านั้น แต่มีจุดเด่นคือ พกพาสะดวก ใช้งานง่าย และราคาไม่แพงมากนักเป็นกล้องคอมแพ็คระดับสูง
กล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว (D-SLR)
กล้องดิจิทัลประเภทนี้เหมาะสำหรับ มือสมัครเล่นที่จริงจัง หรือกึ่งมืออาชีพจนถึงระดับมืออาชีพ จุดสำคัญของกล้องประเภทนี้คือสามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ กล้อง D-SLR มักจะมาพร้อมกับคุณสมบัติที่มากมาย อาทิเช่น โปรแกรมการถ่ายภาพแบบต่าง ๆ และยังสามารถปรับแต่งเองได้ด้วยมือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการโฟกัส การวัดแสง และความเร็วชัตเตอร์ ดังนั้นผู้ใช้ควรมีพื้นความรู้ในการถ่ายภาพดีพอสมควร นอกจากนี้กล้อง D-SLR ยังสามารถมองภาพจากช่องมองภาพผ่านเลนส์ ทำให้มองเห็นภาพที่ใกล้เคียงกับภาพจากเซ็นเซอร์ ซึ่งมีกลไกการทำงานโดยใช้ปริซึม 5 เหลี่ยม และกระจกสะท้อนภาพ เมื่อแสงผ่านเข้าสู่เลนส์จะกระทบกับกระจกสะท้อนภาพไปยังปริซึมและออกไปยังช่องมองภาพ เมื่อกดชัตเตอร์ถ่ายภาพกระจกสะท้อนภาพจะกระดกขึ้นทำแสงตกกระทบสู่ตัวเซ็นเซอร์รับภาพ
https://identity.bsru.ac.th/archives/258